การปลูกปาล์มน้ำมันให้ประสบความ สำเร็จนั้นต้องไม่ลืมปัจจัยพื้นฐานเด็ดขาดเพราะเป็นธรรมชาติของปาล์มน้ำมัน เลย เมื่อเราฝืนธรรมชาติเราก็มักโดนธรรมชาติลงโทษกันอยู่เนืองๆ จะว่าไปปัจจัยสำเร็จในการปลูกปาล์มน้ำมันหมือนกับพืชอื่นๆ ได้แก่
1. ดิน สามารถปรับปรุงได้ แต่ต้องใช้เวลา
2. น้ำ สามารถจัดการได้
3. แสงแดด อุณหภูมิ ความชื้นในบรรยากาศและสภาวะแวดล้อมอื่นๆ ไม่สามารถควบคุมได้ ต้องเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมจริงๆ การจัดการทำได้เฉพาะการจัดผังปลูกเท่านั้น
4. พันธุ์ปาล์ม ปัจจุบันต้องใช้ลูกผสมเทเนอรา (DxP) เท่านั้น
5. การดูแลรักษา มีความสำคัญที่สุดเท่ากับความสำคัญเรื่องพันธุ์
การเตรียมพื้นที่ปลูก
เจ้าของที่ต้องรู้ลักษณะดิน และลักษณะน้ำท่วมหรือน้ำท่วมขังในแปลงปลูกของตัวเองก่อนจึงจะสามารถเตรียมพื้นที่ได้เหมาะสม
- น้ำไม่ท่วม หรือท่วมขังไม่เกิน 10 วัน ปลูกได้เลย
- น้ำท่วมขังผิวดิน ไม่เกิน 20 วัน ระดับน้ำไม่สูงนัก ไถสาดร่องก็เพียงพอ
- น้ำท่วมขังนาน ระดับน้ำสูง หรือที่ลุ่มลึก ควรยกร่องให้ถูกต้อง คือ ปลูก 2 แถวต่อ 1 ร่อง จัดให้แถวปาล์มห่างจากร่องน้ำราว 2.5 เมตร
การวางผังปลูก
การ วางผังปลูกแบบสามเหลี่ยมด้านเท่าหรือแบบสลับฟันปลาจะได้ต้นปาล์มเต็ม เนื้อที่ที่สุด ส่วนการจัดแถวปลูกแบบสี่เหลี่ยมด้านเท่าสะดวกต่อการจัดการมากกว่า มีการแก่งแย่งอาหารและแสงแดดน้อยกว่า
1. จัดระยะระหว่างต้นในแนวทิศ เหนือ-ใต้
2. ระยะห่างระหว่างต้นขึ้นกับความเหมาะสมของพันธุ์ปาล์มแต่ละพันธุ์ (สำหรับประเทศไทยควรเพิ่มระยะจากที่แนะนำในต่างประเทศอีก 1 เมตร)
การเตรียมหลุมปลูก
ขึ้น กับความเหมาะสมของดินในแต่ละแห่ง เช่น ดินร่วนไม่จำเป็นต้องขุดหลุมกว้าง เป็นต้น รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือ ร็อกฟอสเฟต(0-3-0)
วิธีการปลูก
ถ้า ดินเหนียวดินแน่นต้องพรวนดินให้ดี ใช้ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักเข้าช่วย ยิ่งได้แกลบเก่าด้วยยิ่งดีมาก ถ้าดินร่วนนี่ตามสบายได้ครับ(ต้องไม่ลืมว่ารองก้นหลุมดีเท่าไหร่ยิ่งทำให้ ต้นปาล์มโตเร็วเท่านั้น แต่ห้ามใส่ปุ๋ยเคมีลงไปเด็ดขาดยกเว้นปุ๋ยละลายช้า) ที่สำคัญคือห้ามกลบโคนเด็ดขาด เราสามารถป้องกันต้นล้มโดยใช้ไม้ “ม็อบ” ปักลงดินโดยขัดระหว่างกาบใบกับโคนต้น การปลูกซ่อม สามารถปลูกซ่อมได้จนต้นปาล์มในแปลงปลูกอายุไม่เกิน 3 ปี
การให้ปุ๋ย
หลัก 4 ประการเหมือนกันกับพืชทุกชนิดคือ
1. ถูกสูตร คือ ใส่ปุ๋ยได้สัดส่วนธาตุอาหารเหมาะกับความต้องการของพืชแต่ละชนิด
2. ถูกที่ คือ ใส่ในบริเวณที่รากหากินอยู่หนาแน่น เพราะรากพืชแต่ละชนิดการแผ่ขยายรากแตกต่างกันไป
3. ถูกเวลา คือ ช่วงแล้ง หรือฝนตกหนักให้งดใส่ปุ๋ย
4. ถูกปริมาณ คือ กะปริมาณปุ๋ยให้เหมาะกับอายุของพืช และแบ่งใส่ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้