1. ปุ๋ยอินทรีย์คือปุ๋ยที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตที่สลายตัวแล้วจนพืชสามารถนำไปใช้ได้แบ่งออกเป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ
1.1 ปุ๋ยคอก ได้แก่ขี้วัว ขี้ควาย ขี้ม้า ขี้แพะ แกะ กระต่าย เป็ด ไก่ ห่าน นกกระทา ฯลฯ รวมทั้งอุจจาระและปัสสาวะของคนด้วย
1.2 ปุ๋ยหมัก ได้จากการเอาวัชพืชต่าง ๆ เช่น หญ้า บอน ตลอดจนใบไม้ใบหญ้า ฟางข้าว เปลือกถั่ว กากอ้อย ต้นข้าวโพด ต้นถั่ว เศษผัก มาหมักจนสลายตัว
1.3 ปุ๋ยพืชสด ได้จากการนำเมล็ดถั่วกระด้าง ปอเทือง มาหว่านลงในดินพอเริ่มออกดอกก็ไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดบำรุงดิน
สรุปแล้วปุ๋ยหมักก็คืออินทรีย์วัตถุนั่นเอง เมื่อนำไปใช้แล้วทำให้ดินร่วนซุย และเป็นอาหารของพืช แต่มีปริมาณธาตุอาหารน้อยกว่าปุ๋ยเคมีมาก ขอแนะนำให้คุณไปอ่านเรื่องปุ๋ยอินทรีย์กับปุ๋ยเคมีอย่างไหนจะดีกว่ากัน โดย ผศ.ดร.สุรศักดิ์ เสรีพงษ์ ในนิตยสารชาวเกษตร อันดับที่ 22 เดือนมีนาคม 2526
2. ปุ๋ยยูเรีย(Urea) และแอมโมเนียมซัลเฟต(Ammonium Sulfate)ต่างเป็นปุ๋ยเคมีไนโตรเจนเหมือนกันแต่ต่างกันที่วิธีการผลิต และปริมาณธาตุไนโตรเจนปุ๋ย ปุ๋ยยูเรีย ปริมาณธาตุไนโตรเจน 46-48% เท่านั้น
ยูเรีย วิธีผลิตได้จากปฏิกิริยาระหว่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กับก๊าซแอมโมเนียม
คุณสมบัติทางกายภาพ
1. เป็นผลึกสีขาว
2. ดูดความชื้นได้ดีมาก
3. ละลายน้ำได้ 50%
คุณสมบัติทางเคมี
1. ใช้ในนาข้าว หว่านบาง ๆ เป็นปุ๋ยหยอดหน้า มีไนโตรเจน 47-48%
2. ใช้เป็นอาหารสัตว์พวกวัวควาย
3. ใช้กับพืชผักสีเขียวช่วยเร่งความเจริญเติบโตใช้เพียงครึ่งเดียวของปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต เพราะมีธาตุไนโตรเจนสูงกว่าเท่าตัว ปุ๋ยยูเรียมีราคาแพงกว่าปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต
แอมโมเนียมซัลเฟต (Ammonium Sulfate)
วิธีผลิตมี 2 แบบ ใหญ่ ๆ คือ
1. ใช้แอมโมเนียทำปฏิกิริยากับกรดซัลฟูริกเอซิด(กรดกำมะถันมีสูตรทางเคมี H2SO4)
2. ใช้แอมโมเนียทำปฏิกิริยากับยิบซั่มและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
คุณสมบัติทางกายภาพ
1. เป็นผลึกสีขาวหรือเทา
2. ดูดความชื้นในอากาศ
คุณสมบัติทางเคมี
สูตรเคมี
มีธาตุไนโตรเจน 20%
มีธาตุกำมะถัน 24 %
อยู่ในระดับปฏิกิริยาเป็นกรด
ประโยชน์ที่ใช้
ใช้กับดินเค็มหรือดินที่เป็นด่าง
ใช้เมื่อต้องการธาตุกำมะถัน
ใช้ในพืชบางชนิดที่ชอบดินเป็นกรด
ใช้กับพืชผักเพื่อเร่งความเจริญเติบโต
ในระหว่างปุ๋ยยูเรียกับปุ๋ยแอมโมเนียซัลเฟตจะใช้ปุ๋ยยูเรียในปริมาณน้ำหนักและราคาต่ำกว่าปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต เพราะปุ๋ยยูเรียมีปริมาณธาตุไนโตรเจน 46-48% สูงกว่าปุ๋ยแอมโมเนียซัลเฟตเท่าตัว ลองเอาไปคำนวณดูว่าควรจะใช้ปุ๋ยยูเรียหรือปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟตอย่างไหนจะได้กำไรกว่า ในเมื่อเสียเงินเท่า ๆ กัน สมมุติว่าไร่หนึ่งใช้ปุ๋ย 16-20-0 จำนวน 20 กิโลกรัมราคากิโลกรัมละ 4.50 บาท เป็นเงิน 90 บาท มีไนโตรเจน 3.2 กก. เงินจำนวนนี้ถ้านำไปซื้อปุ๋ยยูเรียราคากิโลกรัมละ 6.50 บาท จะซื้อได้ 13.8 กิโลกรัม ปุ๋ย 16-20-0 มีไนโตรเจน(N)16/ปุ๋ยจำนวน 20 กิโลกรัมมีธาตุไนโตรเจน 3.2 กิโลกรัม ปุ๋ยยูเรียมีไนโตรเจน (N)46/ปุ๋ยจำนวน 13.8 กิโลกรัมจะมีไนโตรเจน 6.07 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟตถึงเท่าตัว สรุปแล้วเงิน 90 บาทเท่ากันจะซื้อปุ๋ยยูเรียได้ถึง 13.8 กิโลกรัมใช้ใส่พืชได้กำไร กว่าซื้อปุ๋ย สูตร 16-20-0 จำนวน 20 กิโลกรัม ถ้าต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องโปรดอ่านเรื่อง การใช้ปุ๋ยยูเรียในนิตยสารชาวเกษตรฉบับที่ 26 เดือนกุมภาพันธ์ 2526
ที่มา http://www.thaikasetsart.com