วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แตนเบียน ยาฆ่าแมลงมีชีวิต



แตนเบียน   (parasitic wasps) เป็นแมลงในอันดับ Hymenoptera อยู่ในอันดับเดียวกับ ผึ้ง มด ต่อ และแตน แต่เนื่องจากมีช่วงหนึ่งของชีวิต ที่ต้องอาศัยอยู่ภายใน  หรือ   ภายนอกแมลงชนิดอื่น   และกินแมลงนั้นเป็นอาหาร     จึงได้ชื่อว่า   แตนเบียน  จะต่างจากปรสิตตรงที่ในที่สุดจะฆ่าแมลงอาศัย     ในขณะที่ปรสิตทำให้เจ้าบ้านอ่อนแอ  หรือ  เกิดโรค   แต่ไม่ฆ่าเจ้าบ้าน
  
   
แมลงในกลุ่มนี้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก    อาจสูงกว่าแมลงในกลุ่มด้วงซึ่งเคยคาดว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพสูงสุดในกลุ่มแมลง   สาเหตุที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักแตนเบียนมากเท่ากับผึ้ง    และมด ต่อ แตน    อาจมาจากแตนเบียนเป็นแมลงที่มีขนาดเล็ก  บางชนิดไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า    อาจมีขนาดเล็กมากถึง 0.5 มิลลิเมตร  ซึ่งแตนเบียนกลุ่มนี้จะเบียนไข่ของแมลงชนิดอื่น     นอกจากนี้แตนเบียนมีลักษณะโครงสร้างของร่างกายที่เปราะบาง    ต้องใช้ความระมัดระวังสูงในการเก็บรักษาตัวอย่าง 
  
   
อย่างไรก็ตาม    แมลงในกลุ่มนี้มีคุณค่าทางเศรษฐกิจและนิเวศวิทยา ไม่ต่างจากแมลงกลุ่มอื่นในอันดับเดียวกัน     เนื่องจากแตนเบียนดำรงชีวิตกึ่งปรสิต    จึงเป็นตัวควบคุมจำนวนประชากรของแมลงชนิดอื่นๆ   โดยเฉพาะแมลงที่เป็นศัตรูพืชและแมลงที่เป็นพาหะนำโรค สามารถนำความรู้นี้มาประยุกต์ใช้ในกาควบคุมโดยชีววิธีซึ่งเป็นการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร ลดการใช้สารฆ่าแมลง และรักษาสิ่งแวดล้อม
  
   
ในปัจจุบันประเทศไทยได้นำแตนเบียนมาใช้ในการควบคุมแมลงศัตรูในธรรมชาติแล้ว   เช่น Anastatus sp. และ Ooencurtus sp. ใช้เบียนมวลลำไย Tesseratoma papillosaและใช้แตนเบียนชนิด Cotesia plutellae  และ Diadegma semiclausum  เบียนหนอนใยผัก ซึ่งหนอนชนิดนี้ได้ก่อให้เกิดผลเสียทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง เพราะมันทำลายพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย เช่น กะหล่ำปลี กวางตุ้ง ผักกาดหัว ผักกาดขาวปลี และผักอื่นๆ อีกหลายชนิด นอกจากนี้แตนเบียนยังเป็นตัวอย่างที่ดีในการศึกษาสายสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการอนุกรมวิธานความสัมพันธ์ระหว่างแมลงอาศัยและแตนเบียนรวมถึงระบบนิเวศวิทยา




การทำลาย
        ตัวเมียจะใช้ส่วนของอวัยวะเพศเจาะแทงเข้าไปตามส่วนบนของไข่หนอนผีเสื้อ ไข่ ฟอง สามารถมีแตนเบียนไข่ได้ 1-4 ตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของอาหารภายในไข่ของหนอนผีเสื้อ ส่วนปากของตัวอ่อนแตนเบียนไข่มีลักษณะคล้าย
 ตะขอ อัน โค้งชี้เข้าหากันจะเจาะกินของเหลวภายในส่วนของคัพภะ  ตัวอ่อนจะมีอยู่ ระยะ หลังจากนั้นจะพักและหดตัว
 จะสังเกตุเห็นว่าไข่ของผีเสื้อที่ถูกแตนเบียนทำลายภายในระยะเวลา วัน หลังจากการวางไข่ ไข่ของหนอนผีเสื้อจะเปลี่ยน
 เป็นสีดำเข้มและจะไม่ฟักเป็นตัวหนอน
 
 ลักษณะหนอนกออ้อย
ลักษณะไข่หนอนกออ้อยปกติ
ลักษณะของไข่หนอนกออ้อย
ที่ถูกแตนเบียนทริโคแกรมม่าทำลาย
 
  ใช้ควบคุม
        แตนเบียนไข่ทริโคแกรมม่าเป็นแมลงเบียนที่ทำลายไข่ของหนอนผีเสื้อได้หลายชนิดคือ ไข่หนอนเจาะสมอฝ้าย ไข่หนอนกออ้อย  ไข่หนอนกอข้าว  ไข่หนอนม้วนใบข้าว  ไข่หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด  ไข่หนอนใยผัก  ไข่หนอนแก้วส้ม
 ไข่หนอนคืบละหุ่ง  ไข่หนอนบุ้งปกขาว  ไข่หนอนคืบกะหล่ำปลี  เป็นต้น
 
  การนำแตนเบียนไข่ทริโคแกรมม่าไปใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืช
        1) ต้องมีการสำรวจไข่ของแมลงศัตรูพืชในไร่ก่อนปล่อย ถ้าพบว่ามีการวางไข่ของแมลงศัตรูพืชระดับ 5-10             ก็เริ่มทำการปล่อยได้ ถ้าไม่พบไข่ของแมลงศัตรูพืชก็ยังไม่ต้องปล่อย
        2) ระยะเวลาของการฟักเป็นตัวเต็มวัยของแตนเบียนไข่ จะต้องสัมพันธ์ให้ถูกกับจังหวะระยะเวลาวางไข่ของ
            แมลงศัตรูพืช
        3) การปล่อยแตนเบียนไข่ให้ครอบคลุมพื้นที่ปลูกต้องปล่อยเหนือทิศทางลม
        4) ปริมาณปล่อยอัตราที่เหมาะสม 20,000-30,000 ตัวต่อไร่
        5) อัตราการฟักเป็นตัวเต็มวัยของเพศเมียในไข่แตนเบียนที่จะนำไปปล่อยควรอยู่ที่ระดับ 50 % ขึ้นไป
        6) สภาพพื้นที่ปล่อยฝนต้องไม่ตก ไม่ร้อนและลมไม่แรงเกินไป
        7) อุปกรณ์ในการใส่บรรจุแตนเบียนไข่ที่จะนำไปปล่อยในไร่ต้องมีการป้องกันแมลงอื่น เช่น มดเข้าทำลายได้
            และป้องกันฝนด้วย
        8) ช่วงเวลาปล่อยควรเป็นเวลา 16:00 เป็นต้นไป
        9) จุดปล่อยในพื้นที่แต่ละจุดห่างกัน 15-20 เมตร ทั้งแนวตรงและแนวข้างใน ไร่ ไม่ควรเกิน จุด


ที่มา
http://www.pmc08.doae.go.th/tanbeantricoderma.htm
http://fws.cc/whatisnippana/index.php?topic=2297.0