วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

มาปลูกผักไฮโดรโพนิกส์แบบพอเพียงกัน

มีโอกาสได้ไปอบรมที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนมาค่ะไปเห็น การปลูกผักไฮโดรโพนิกส์แบบใช้วัสดุเพาะแบบพอเพียงมาค่ะจึงขอนำมาฝากนะคะ



วัสดุหลักค่ะ


นำมาเจาะรูดังภาพค่ะ


นำมาต่อเป็นชั้นดังภาพค่ะ


ต่อสายยางเพื่อจ่ายน้ำและธาตุอาหารค่ะ


รากฐานมั่นคงค่ะ


ภาพสมบูรณ์หลังจากนำเมล็ดพันธุ์มาปลูก

ข้อดีของการใช้ไม้ไผ่แทนวัสดุการปลูก
- เป็นการใช้วัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์
- ลดต้นทุนในการจัดหาวัสดุการปลูก
- ดูสวยงาม สามารถประดับสวนได้
ข้อเสีย
-เมื่อใช้ไปนานๆจะเกิดรอยแตกถ้าใช้ในที่กลางแจ้ง
-จะเกิดรา

* จึงควรปลูกในที่ร่ม ไม่โดนแสงแดดโดยตรง ถ้าเกิดรอยรั่วให้ใช้ ซิลิโคน อุดแต่ถ้าจะให้ได้วัสดุการปลูกแบบถาวรขอแนะนำให้ไปหาซื้อท่อ PVC และหัวอุดตามร้านขายของเก่าจะราคาถูกค่ะ ใช้งานได้ดีค่ะ อายุการใช้งานได้นานกว่าค่ะ ขอให้โชคดีในการปลูกนะคะ

มาชมต่อกันดีกว่า ต่อไปนี้คือแปลงผักไฮโดรโพนิกส์แบบมาตรฐานทั่วไปค่ะ

งามมากๆเลยค่ะ


ผักสลัดสวยๆ


อีกมุมของความสำเร็จ


ผักนานาพันธุ์


ด้านล่างของความงามค่ะ


ถังน้ำที่เติมธาตุอาหาร A และ B

การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน(ไฮโดรโพนิกส์)
หมาย ถึงวิธีการปลูกพืชเพื่อให้พืชได้รับสารอาหารหรือสารละลายธาตุอาหารพืช ที่มีน้ำผสมกับแร่ธาตุที่ต้องการจากทางรากพืช โดยพืชที่ปลูกนั้นจะเป็นการปลูกลงวัสดุปลูกหรือโดยไม่ต้องมีวีสดุปลูกก็ได้
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน
วัสดุที่จำเป็นสำหรับการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินที่ใช้กันทั่้วไป ได้แก่โรงเรือน ภาชนะและวัสดุที่ใช้ในการปลูก ปุ๋ยหรือธาตุอาหารพืช
น้ำ ปั๊มน้ำ ระบบไฟฟ้า เมล็ดพันธุ์ พืชหรือกล้าพืชที่จะใช้ปลูก ฟองน้ำ โฟม เครื่องมือวัดค่า EC เครื่องมือวัดค่า pH ของน้ำ
ถาดเพาะเมล็ด ถ้วยปลูก

ในกรณีที่จะใช้ไม้ไผ่แทนวัสดุแนะนำให้ใช้ต้นไผ่ที่อายุแก่จัด เพื่อความยืดอายุการใช้งานค่ะ

ขั้นตอนการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน
1.จัด เตรียมชุดปลูกให้พร้อม โดยถาดปลูกจะเป็นระบบสำเร็จรูป ถอดประกอบได้ง่าย ให้ตั้งอยู่กลางแจ้งมีแสงแดด ประมาณวันละ 6-8 ชั่วโมง เช่น สนามหญ้าหน้าบ้าน หรือ ดาดฟ้า
2.จัดเรียงฟองน้ำในถาดเพาะ รดน้ำให้ชุ่มจากนั้นใส่เมล็ดพันธุ์ที่ต้องการในฟองน้ำ ใช้ผ้าคลุมปิดถาดเพาะหรือเก็บไว้ในที่มืด รดน้ำเช้าและเย็นรอจนเมล็ดพันธุ์งอก และพ้นฟองน้ำ(ประมาณ 2 วัน)
3.เปิดผ้าคลุมออกให้ต้นกล้าได้รับแสงแดด รดน้ำช่วงเช้าและช่วงเย็น ต่อไปอีก 5-7วัน จนต้นกล้ามีใบเลี้ยงคู่และรากงอกจากฟองน้ำ
พร้อมสำหรับย้ายไปปลูก
4.ย้ายกล้าลงปลูก

การดูแลและรักษา
1.เติมน้ำสะอาดลงในถังน้ำ และเติมธาตุอาหาร A และ B ในอัตราส่วนเท่ากับที่ตามกำหนดไว้
2.คอยดูแลระดับน้ำในถัง ถ้ามีการเติมน้ำเพิ่มภายหลังจะต้องเติมธาตุอาหาร A แล ะ B ไปพร้อมกัน
3.ทุก ครั้งที่เติมอาหารจะต้องวัดค่า EC โดยใช้เครื่องมือวัด(ค่า EC (electrical conductivity) คือค่าการนำไฟฟ้า เป็นค่าที่บอกความเข้มข้นของสารละลาย มีหน่วยเป็น มิลลิโมลต่อเซนติเมตร (mmho/cm) หรือมิลลิซีเมนส์ต่อเซนติเมตร (mS/cm) ถ้าค่า EC สูงแสดงว่าสารละลายมีความเข้มข้นสูง คือมีธาตุอาหารละลายอยู่มาก ค่า EC ในการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์จะแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่และชนิดพืชปลูก )
4.น้ำที่ใช้ในการปลูก ควรมีความเป็นกรด-ด่าง ระหว่าง 5.0-6.5
5.หมั่นตรวจโรคและแมลงอย่างสม่ำเสมอ
คุณประโยชน์ของพืชที่ปลูกแบบไม่ใช้ดิน
1.สามารถปลูกพืชทื่ปลอดภัยจากสารพิษ
2.เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3.เป็นการเสริมสร้างผักโภชนาการสูง

สูตรธาตุอาหาร
อัตรา 1 : 100 EC 1.0 - 1.8 PH5.2 - 6.5
STOCK A 10 ลิตร
1.แคลเซี่ยมไนเครท 1,000 กรัม
2.เหล็กเรโซลิน เอ พี เอ็น 60 กรัม
STOCK B 10 ลิตร
1.โปแตสเซียมไนเตรท 600 กรัม
2.แมกนีเซียมซัลเฟต 500 กรัม
3.โมโนโปแตสเซียมฟอสเฟต 265 กรัม

4.นิคสเปรย์ 15 กรัม
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา(พืชสวน)
(038-599019)

ที่มา http://www.takeang.com/takeang_forums/index.php?topic=626.0