วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

หลักการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อให้ได้ผลผลิตสูง




ปัจจุบันปุ๋ยเคมีมีราคาสูงขึ้นตามสภาวะตลาดโลก การใช้ปุ๋ยในอนาคตจะต้องเป็นไปอย่าง
ประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลผลิตมากขึ้น หนทางหนึ่งที่จะช่วยเกษตรกรได้จะต้องเชื่อตาม
คำแนะนำของทางราชการหรือนักวิชาการในการใช้ปุ๋ย คำแนะนำข้างล่างเป็นคำแนะนำที่เกษตรกรควร
นำไปปฏิบัติเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น

1. ต้องหาพื้นที่ที่เหมาะสมกับพืชที่จะปลูก มีการปรับปรุงบำรุงดินโดยเฉพาะความเป็นกรด
เป็นด่างของดิน โดยใช้ปูนขาวหรือปูนมาร์ล หากเป็นพื้นที่ที่กว้างใหญ่ควรมีการระบายน้ำที่ดี

2. ต้องมีแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ เช่น ปริมาณน้ำฝนถูกต้องตามฤดูกาล มีคลองหรือระบบ
ชลประทาน แอ่งเก็บน้ำ หรือระบบส่งน้ำตามท่อ เป็นต้น

3. ควรกำจัดวัชพืชก่อนการใช้ปุ๋ย เพราะวัชพืชสามารถแย่งอาหารของพืชที่ปลูกได้

4. ถ้าเป็นพืชไร่ควรจะปลูกพืชหมุนเวียน เป็นการกำจัดแมลงและโรคพืชไปในตัว หลังการ
เก็บเกี่ยวแล้วตอซัง เช่น ตกซังข้าว ข้าวโพด ถั่วต่างๆ ควรไถกลบเป็นปุ๋ยของพืชที่จะปลูกในฤดูต่อไป หากตอซังมีน้อยอาจใช้วิธีปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วไถถลบเสีย การทำเช่นนี้จะช่วยประหยัดการใช้ปุ๋ยเคมีด้วย

5. ควรใส่ปุ๋ยตามที่พืชต้องการ การวิเคราะห์ดินและวิเคราะห์ใบพืชจะช่วยให้ทราบว่าพืชขาด
ธาตุใดบ้าง วิธีนี้จะช่วยประหยัดปุ๋ยเคมีได้มาก เพราะพืชแต่ละชนิดมีความต้องการธาตุอาหารไม่เหมือนกัน
ควรขอคำแนะนำจากนักวิชาการว่าพืชชนิดนี้ควรใช้ปุ๋ยเคมีสูตรอะไร และปริมาณมากน้อยแค่ไหน

6. ควรใส่ปุ๋ยให้ถูกเวลา เพราะตั้งแต่เริ่มปลูกจนเก็บเกี่ยวพืชแต่ละชนิด มีระยะเวลาที่ต้องการ
ธาตุอาหารแตกต่างกัน พืชล้มลุกอายุสั้นการให้อาหารควรให้พร้อมปลูกหรือหลังปลูก 1 – 2 เดือน ไม่
เหมือนไม้ผลที่ระยะเวลาการให้ปุ๋ยมีหลายขั้นตอน เช่น ระยะหลังเก็บเกี่ยว ระยะเริ่มออกดอก ระยะติดผล
ระยะขยายผล เป็นต้น