วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

น้ำส้มควันไม้

น้ำส้มควันไม้ ควันที่เกิดจากการเผาถ่าน ในช่วงที่ไม้กำลังเปลี่ยนเป็นถ่าน เมื่อทำให้เย็นลงจนควบแน่นแล้วกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ของเหลวที่ได้นี้ได้เรียก น้ำส้มควันไม้ ส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นกรดอะซิติกมีความเป็นกรดต่ำมีสีน้ำตาลแดง นำน้ำส้มควันไม้ที่ได้ทิ้งไว้ในภาชนะพลาสติกประมาณ 3 เดือน เก็บไว้ในที่ร่มมาสั่นสะเทือน เพื่อให้นำส้มควันไม้ที่ได้ตกตะกอนและแยกตัวเป็น 3 ชั้น คือ น้ำมันเบา น้ำส้มไม้ และน้ำมันทาร์ จากนั้นแยกน้ำส้มไม้มาใช้ประโยชน์ต่อไป
น้ำส้มควันไม้ผลพลอยได้จากการเผาถ่าน
เตาเผาถ่าน 200 ลิตร เป็นเตาที่มีประสิทธิภาพสูง เตาประเภทนี้อาศัยความร้อนไล่ความชื้นในเนื้อไม้ที่มีอยู่ในเตา ทำให้ไม้กลายเป็นถ่าน หรือเรียกว่ากระบวนการคาร์บอนไนเซชั่น ผลผลิตที่ได้จึงเป็นถ่านที่มีคุณภาพ ขี้เถ้าน้อยและผลพลอยได้จากการเผาถ่านคือ น้ำส้มควันไม้
ขั้นตอนการเผา
ช่วง ที่ 1 ไล่ความชื้นหรือคลายความร้อน
เริ่มจุดไฟเตา บริเวณที่อยู่หน้าเตา ใส่เชื้อเพลิงให้ความร้อนกระจายเข้าสู่เตาเพื่อไล่อากาศเย็นและความชื้นที่ อยู่ในเตาและในเนื้อไม้ควันที่ออกมาจากปล่องควันจะมีสีขาว ควันจะมีกลิ่นเหม็นซึ่งเป็นกลิ่นของกรดประเภทเมธานนอลที่อยู่ในเนื้อไม้ อุณหภูมิปากปล่องควันประมาณ 70 – 75 องศาเซลเซียส อุณหภูมิในเตาประมาณ 150 องศาเซลเซียส ใส่เชื้อเพลิงต่อไป ควันสีขาวตรงปล่องควันจะเพิ่มขึ้น อุณหภูมิในเตาประมาณ 20 – 25 องศาเซลเซียส ควันมีกลิ่นเหม็นฉุน
ช่วงที่ 2 เมื่อไม้กลายเป็นถ่าน หรือปฏิกิริยาคลายความร้อน
เมื่อเผาไปอีกระยะหนึ่ง ควันสีขาวจะเริ่มบางลงและเปลี่ยนเป็นสีเทาอุณหภูมิบริเวณปากปล่องควัน ประมาณ 80 – 85 องศาเซลเซียส อุณหภูมิภายในเตาประมาณ 300 – 400 องศาเซลเซียส ไม้ที่อยู่ในเตาจะคลายความร้อนที่สะสมเอาไว้เพียงพอที่จะทำให้อุณหภูมิในเตา เพิ่มสูงขึ้น ในช่วงนี้ค่อยๆ ลดการป้อนเชื้อเพลิงลงจนหยุดป้อนเชื้อและเริ่มเก็บน้ำส้มควันไม้ หลังจากหยุดการป้อนเชื้อเพลิงหน้าเตา จะต้องควบคุมอากาศ โดยการหรี่หน้าเตา หรือลดพื้นที่หน้าเตาลงให้เหลือช่องพื้นที่หน้าเตาประมาณ 20 – 30 ตารางเซนติเมตร สำหรับให้อากาศเข้า เพื่อรักษาระดับของอุณหภูมิในเตาไว้ให้นานที่สุด ช่วงที่เหมาะสมกับการเก็บน้ำส้มควันไม้ควรมีอุณหภูมิบริเวณปากปล่องคัน ประมาณ 85 – 120 องศาเซลเซียส เนื่องจากเป็นช่วงสารในเนื้อไม้ถูกขับออกมาจากนั้นควันก็เปลี่ยนจากสีเทา เป็นสีน้ำเงิน จึงหยุดเก็บน้ำส้มควันไม้อุณหภูมิบริเวณปากปล่องควันประมาณ 100 – 200 องศาเซลเซียส อุณหภูมิในเตาประมาณ 400 – 450 องศาเซลเซียส

ช่วงที่ 3 ช่วงทำถ่านให้บริสุทธิ์
ขั้น ตอนนี้เป็นช่วงที่ไม้จะเปลี่ยนเป็นถ่าน ต้องทำการเพิ่มอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว โดยการเปิดหน้าเตา ประมาณ1 ใน 3 ของหน้าเตาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เมื่อควันสีน้ำเงินเป็นสีฟ้าแสดงว่าไม้เริ่มเป็นถ่านใกล้หมด จากนั้นควันสีฟ้าอ่อนลงและจะกลายเป็นควันใสแทนเมื่อมีควันใสเริ่มทำการปิด หน้าเตา โดยใช้ดินเหนียวปิดรอยรั่วจากนั้นทำการปิดปล่องควันให้สนิทและอุดรูรั่วทั้ง หมด ไม่ให้อากาศภายนอกผ่านเข้าได้

ช่วง ที่ 4 ช่วงการทำให้ถ่านในเตาเย็นลง
เกลี่ยดินบนเตาออกให้เห็น หลังเตาเพื่อระบายความร้อนในเตา จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 คืน หรือประมาณ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ถ่านดับสนิทแล้วจึงเริ่มการเปิดเตา เพื่อนำถ่านออกจากเตาและนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

ผลผลิตที่ได้จากการเผา ถ่านไม้เงาะ 100 กิโลกรัม
- น้ำส้มควันไม้ 8 ลิตร
- ถ่าน 25 กิโลกรัม
อัตราส่วน
น้ำส้มควันไม้: น้ำ การใช้ประโยชน์
1 : 20 - พ่นลงดินเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่เป็นประโยชน์และแมลงในดิน ซึ่งควรทำก่อนการเพาะปลูก 10 วัน

1 : 50 - พ่นลงดินเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำลายพืช หากใช้ความเข้มข้นที่มากกว่านี้ รากพืชจะได้รับอันตราย

1 : 100 - ราดโคนต้นไม้รักษาโรครา และโรคเน่ารวมทั้งป้องกันแมลงมาวางไข่

1 : 200 - พ่นใบไม้รวมทั้งพื้นดินรอบๆต้นพืชทุก ๆ 7-15 วันเพื่อขับไล่แมลงและป้องกันเชื้อรา และรดโคนต้นไม้เพื่อเร่งการเจริญเติบโต

1 : 500 - พ่นผลอ่อนหลังจากติดผลแล้ว 15 วัน ช่วยขยายผลให้โตขึ้นและพ่นอีกครั้งก่อนเก็บเกี่ยว 20 วัน เพื่อเพิ่มน้ำตาลในผลไม้

1 : 1,000 - พ่นลงดินเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่เป็นประโยชน์และแมลงในดิน ซึ่งควรทำก่อนการเพาะปลูก 10 วัน
- พ่นลงดินเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำลายพืช หากใช้ความเข้มข้นที่มากกว่านี้ รากพืชจะได้รับอันตราย
- ราดโคนต้นไม้รักษาโรครา และโรคเน่ารวมทั้งป้องกันแมลงมาวางไข่
- พ่นใบไม้รวมทั้งพื้นดินรอบๆต้นพืชทุก ๆ 7-15 วันเพื่อขับไล่แมลงและป้องกันเชื้อรา และรดโคนต้นไม้เพื่อเร่งการเจริญเติบโต
พ่นผลอ่อนหลังจากติดผลแล้ว 15 วัน ช่วยขยายผลให้โตขึ้นและพ่นอีกครั้งก่อนเก็บเกี่ยว 20 วัน เพื่อเพิ่มน้ำตาลในผลไม้
เป็นสารจับใบ เนื่องจากสารเคมีสามารถออกฤทธิ์ได้ดีในสารละลายที่เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยเสริมประสิทธิภาพสารเคมีทำให้สามารถลดการใช้สารเคมีมากกว่าครึ่งด้วย

ข้อ ควรระวังในการใช้น้ำส้มควันไม้
1. ก่อนนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ ต้องทิ้งไว้จากการเก็บก่อนอย่างน้อย 3 เดือน
2. เนื่องจากน้ำส้มควันไม้มีความเป็นกรดสูง ควรระวังอย่าให้เข้าตา อาจทำให้ตาบอดได้
3. น้ำส้มควันไม้ไม่ใช่ปุ๋ย แต่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ดังนั้นการนำไปใช้ทางการเกษตรจะเป็นตัวเสริมประสิทธิภาพให้กับพืช แต่ไม่สามารถใช้แทนปุ๋ยได้
4. การใช้เพื่อฆ่าจุลินทรีย์และแมลงในดินที่เป็นโทษควรทำก่อนเพาะปลูกอย่างน้อย 10 วัน
5. การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ต้องผสมน้ำให้เจือจางตามความเหมาะสมที่จะนำไปใช้
6. การฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้เพื่อให้ดอกติดผล ควรพ่นก่อนที่ดอกจะบานหากฉีดพ่นหลังจากดอกบานแมลงจะไม่เข้ามาผสมเกสรเพราะ มีกลิ่นฉุนของน้ำส้มควันไม้ และดอกจะหลุดร่วงง่าย

ที่มา http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=13317.0